กาญจนบุรี มีดีหลายอย่าง

     หากนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวในวันหยุด ใกล้กรุงเทพฯ อากาศเย็นสบาย มีแหล่งท่องเที่ยวทางอารยธรรมและธรรมชาติครบครัน "กาญจนบุรี" คือหนึ่งในตัวเลือกแห่งการท่องเที่ยวที่มองข้ามไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพียงใช้เวลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ก็สามารถสัมผัสกับกลิ่นหมอกและลมหนาว พร่างพราวดวงดาวในยามค่ำคืนเคียงคู่ไปกับดวงตะวันในรุ่นเช้าของวันใหม่ ด้วยเหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่คุณจะพาตัวเองมาสัมผัสอากาศหนาวใกล้กรุง รวมทั้งพบกับเรื่องราวแห่งความทรงจำได้ตลอดทั้งปีจากดวงตะวันของเมืองกาญจน์ใน 3 อำเภอ ได้แก่ศรีสวัสดิ์ ทองผาภูมิ และสังขละบุรี เริ่มต้นคร่าวๆกับ 3 อำเภอนี้ก่อน แล้วอนาคตเราจะลงลึกเพื่อให้รู้จักกับสถานที่ต่างๆของกาญจนบุรี

เยือนถิ่นศรีสวัสดิ์ ดินแดนแห่งธารธารา ตื่นตาน้ำตกชื่อดัง

     อ.ศรีสวัสดิ์ หลายคนมักจะไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อนี้ แต่รู้ไหวว่าอำเภอแห่งนี้มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนศรีนครินทร์ สวนเวลารำลึก ถ้ำพระธาตุ น้ำตกเอรวัณ ฯลฯ แต่ที่เด่นๆ คงหนีไม่พ้น "น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น" ลองมาสัมผัสความเย็นและอากาศที่ชุ่มชื่นของที่นี่แล้วจะประทับใจไม่มีวันลืมกับน้ำตก 7 ชั้น รวมทั้งยังได้ดื่มด่ำกับความร่มรื่นของต้นไม้นานาพันธุ์
     โบสถ์สเตนเลส ตั้งอยู่ในวัดป่าลำขาแข้ง เป็น Unseen Thailand อีกแห่งที่ภูมิใจนำเสนอ ลองลืมภาพโบสถ์ในแบบเดิม ด้วยการมาชมโบสถ์สเตนเลสและพระพุทธรูปสเตนเลสองค์ใหญ่อลังการงานสร้าง หนึ่งเดียวในโลกที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน วัดตั้งอยู่กลางสายน้ำในเขื่อนศรีนครินทร์ การเดินทางต้องนั่งเรือหางยาวจากตัวเขื่อนไปประมาณ 2 ชม.

เก็บหมอกหยอกภูเขา ทองผาภูมิถิ่นเหมืองแร่แห่งรัก

     ดื่มด่ำกับความเขียวขจีของภูเขาและเมฆหมากที่ลอยมาหยอกล้ออยู่ตรงหน้าในหน้าฝน หากมาในฤดูหนาวก็จะได้ความหนาวเหน็บจากลมหนาวที่ลอยละลิ่วแทรกซึมเข้าไปในร่างกาย กับความสวยงามของป่าไม้เปลี่ยนสีและทุ่งหญ้าสีทองพลิ้วไหว สามารถเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ สัมผัสตำนานเหมืองแร่ปิล๊อก และความรักอันยิ่งใหญ่ของป้าเกล็น หรือเหมืองสมศักดิ์ในอดีต ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างเรียบง่ายจากความรักความผูกพันของป้าเกล็นที่มีต่อคุณสมศักดิ์ชายคนรัก จนกลายเป็นตำนานรักอันยิ่งใหญ่ท่ามกลางเหมืองในป่าแห่งนี้ ถ้าได้ลองมาเยือนแดนดินถิ่นทองผาภูมิสักครั้ง จะประทับใจจนอยากกลับมาอีกครั้งแน่นอน

สังขละบุรีสวรรค์ของไอหมอก นทีสามประสบ มิตรไมตรีหลากชาติพันธุ์

     อ.สังขละบุรี สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล โดยเฉพาะฤดูหนาวจะได้สัมผัสกับไอหมอกและลมหนาวที่ลอยมาทักทายเราอยู่เบื้องหน้า เมืองชายแดนแห่งนี้ติดกับพม่า รายล้อมด้วยธรรมชาติและขุนเขาอันเขียวขจี มีแม่น้ำซองกาเลียซึ่งไหลจากต้นกำเนิดในพม่าพาดผ่าน โดยแบ่งสังขละบุรีออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือฝั่งไทย ส่วนอีกฝั่งเป็นหมู่บ้านของชาวมอญที่ตั้งถิ่นฐานมานานนับร้อยปี และเพิ่งอพยพเข้ามาใหม่ จึงไม่แปลกที่สังขละบุรีจะมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมของพี่น้องต่างเผ่าพันธุ์ ทั้งมอญ กะเหรี่ยง ไทย ลาว พม่า ฯลฯ ที่นี่มีหลายเอกลักษณ์ที่รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปทำความรู้จัก ไม่ว่า สะพานมอญเมืองบาดาล วัดวังก์วิเวการาม ที่หลวงพ่ออุตตมะได้สรรค์สร้าง และรวมความเป็นหนึ่งเดียวของชาวบ้านกะเหรี่ยงและมอญให้ยึดมั่นมาจนตราบทุกวันนี้


หนังสือพิมพ์ M2F วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555